สูบบุหรี่… กับเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ?
- Sirirat Nakdang
- 26 เม.ย.
- ยาว 1 นาที
นอกจากทำร้ายปอด… บุหรี่ยังทำร้าย “น้องชาย” โดยที่หลายคนไม่รู้ตัว
สำหรับผู้ชายจำนวนไม่น้อย “การไม่แข็ง” หรือการแข็งตัวไม่เต็มที่ของอวัยวะเพศ อาจดูเป็นเรื่องที่เกิดจากความเครียด ความเหนื่อยล้า หรือปัญหาทางจิตใจชั่วคราว แต่ในความเป็นจริง หนึ่งในสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่แอบซ่อนอยู่แบบเงียบ ๆ คือ “การสูบบุหรี่”

แม้จะไม่มีอาการผิดปกติอื่นใด แต่การที่ผู้ชายสูบบุหรี่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะมากกว่า 10 มวนต่อวัน สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ความผิดปกตินี้อาจค่อย ๆ พัฒนา จนกระทั่งมีผลต่อชีวิตคู่ และความมั่นใจในตนเองในระยะยาว
สูบบุหรี่กับเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ: ข้อมูลจากงานวิจัยระดับสากล
หนึ่งในงานวิจัยสำคัญโดย Tengs and Osgood (2001) ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Preventive Medicine ได้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่กับภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ พบว่า
ผู้ชายที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 1.8 เท่า
ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยใน American Journal of Epidemiology (2007) ที่ศึกษาชายกว่า 4,700 คน ยังระบุว่า
ผู้ที่สูบบุหรี่มากกว่า 20 มวนต่อวัน มีโอกาสเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศสูงขึ้นถึง 86%
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า “ปริมาณการสูบ” ยิ่งมาก ความเสี่ยงก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้น
สูบบุหรี่ตอนวัยรุ่น ยังมีผลตอนอายุ 30?
คำตอบคือ “ใช่”งานวิจัยจากประเทศออสเตรเลีย พบว่า
ผู้ชายอายุเพียง 18–39 ปี ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้นถึง 2.6 เท่า เทียบกับผู้ที่ไม่เคยสูบเลย
ซึ่งหมายความว่า การสูบบุหรี่แม้ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยต้น ๆ ของชีวิต ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพทางเพศได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้มีโรคร่วมอื่นมาก่อน
ทำไมบุหรี่ถึงทำให้น้องชาย “ไม่แข็ง”?
แม้เราจะคุ้นชินกับคำว่า "บุหรี่ทำลายปอด" แต่จริง ๆ แล้ว บุหรี่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายระบบไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย ซึ่งรวมถึงอวัยวะเพศชายด้วยการแข็งตัวของอวัยวะเพศนั้นต้องพึ่งพาการไหลเวียนเลือดที่ดีมาก — ถ้าเส้นเลือดไม่ขยายตัว หรือเกิดการตีบตัน การแข็งตัวไม่เต็มที่
นิโคตินในบุหรี่
นิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัวอย่างฉับพลัน ลดการไหลเวียนเลือด และยังลดการหลั่งสารไนตริกออกไซด์ (NO) ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อการขยายหลอดเลือดในอวัยวะเพศ นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะมีระดับ ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ต่ำกว่าปกติ ซึ่งส่งผลต่อความต้องการทางเพศและสมรรถภาพโดยรวม
เลิกบุหรี่แล้วสมรรถภาพฟื้นไหม?
ข่าวดีคือ… ใช่!มีงานวิจัยจาก British Journal of Urology International (2004) ระบุว่า
ผู้ชายที่มีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแบบไม่รุนแรง และสามารถเลิกบุหรี่ได้ภายใน 1 ปีเกือบ 25% มีการฟื้นตัวของการแข็งตัวได้อย่างชัดเจน
แม้อาจไม่ใช่ทุกคนที่กลับมาได้เต็ม 100% แต่ก็ถือว่า “การเลิกบุหรี่” เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ชายที่อยากฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งยาไปตลอดชีวิต
สรุป
การสูบบุหรี่เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศโดยตรงและรุนแรงกว่าที่หลายคนคิด การ “ไม่แข็ง” หรือแข็งไม่เต็มที่ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ อาจไม่ใช่แค่เพราะเหนื่อยหรือเครียด แต่เป็นสัญญาณจากร่างกายว่า “น้องชายกำลังขาดเลือด” และหากยังไม่หยุดพฤติกรรมเสี่ยง ก็อาจนำไปสู่ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแบบถาวรในอนาคต
หากคุณสูบบุหรี่และเริ่มมีปัญหาทางเพศ นี่อาจเป็นเวลาที่ดีในการพูดคุยกับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาทางฟื้นฟูสุขภาพเพศชายให้กลับมาดีอีกครั้ง
บทความโดย
หมอโป้ง นพ.สิริรัฐ นาคแดง ว 55466
แพทย์เฉพาะทางทางเดินปัสสาวะและสุขภาพเพศชาย
ความคิดเห็น